Categories
ข่าวสาร

วิธี ออกแบบสร้างบ้าน ให้ห้องพระเสริมสิริมงคลแก่ผู้อยู่อาศัย

ห้องพระ ห้องที่สำคัญที่สุดอีกห้องในบ้าน เป็นสถานที่ที่ชาวพุทธให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกๆ เพราะเป็นสถานที่ที่ชาวพุทธมักใช้ไหว้พระ สวดมนต์ กราบไหว้ขอพร บูชาให้ความเคารพ ซึ่งตามหลักฮวงจุ้ยเชื่อว่าหากตั้งห้องพระให้ดี จะช่วยเสริมให้บ้านสงบร่มเย็น สามารถเกื้อหนุนคนในบ้านให้มีทั้งบารมี และเสริมสิริมงคลแก่ผู้อยู่อาศัยด้วย การจัดตำแหน่งห้องพระจึงเป็นอีกเรื่องที่เจ้าของบ้านและบริษัทรับสร้างบ้านควรให้ความสำคัญ โดยต้องใส่ใจตั้งแต่การ ออกแบบสร้างบ้าน นั่นเอง

 วันนี้ บริษัทรับสร้างบ้าน Grit Build จึงมาแนะนำวิธีการ ออกแบบสร้างบ้าน ที่มีการจัดตำแหน่งห้องพระอย่างถูกต้อง เพื่อเสริมสิริมงคลแก่ผู้อยู่อาศัยกัน

การจัดตำแหน่งห้องพระ ให้เกิดสิริมงคล

ตัวอย่างแบบบ้าน Onyx ที่ถูกออกแบบให้ห้องพระอยู่ชั้นบนสุดของบ้าน
1. ห้องพระที่ดี ควรอยู่ตำแหน่งที่สูงที่สุดของบ้าน
  1. ชาวพุทธเชื่อว่า พระพุทธรูปเป็นของสูง เปรียบเสมือนตัวแทนของพระพุทธเจ้าและพระอริยสงฆ์ ที่ควรมีเอาไว้เพื่อสักการบูชา ดังนั้น การออกแบบสร้างบ้าน จึงควรให้ห้องพระอยู่ชั้นบนสุดของบ้าน ไม่ควรอยู่ชั้นล่างหรือต่ำกว่าผู้อยู่อาศัย เพราะอาจมีการนอนคร่อม หันปลายเท้าเข้าหาองค์พระ หรือเดินข้ามไปมาได้  เป็นเหตุผลให้ควรตั้งห้องพระอยู่บนสุด เพื่อความมงคลและแสดงถึงความเคารพนั่นเอง

    แต่หากเจ้าของบ้านที่อาจมีพื้นที่บ้านจำกัด ทำให้จำเป็นต้องเลือกตั้งห้องพระไว้บริเวณชั้นล่าง ก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่ต้องพิจารณาให้ดีว่าห้องที่อยู่ด้านบนห้องพระเป็นห้องน้ำหรือไม่ ถ้าตรงต้องเปลี่ยนที่ให้ตรงกับห้องว่างที่ไม่มีคนใช้งานดีกว่า แต่หากจะให้แน่นอนที่สุด ควรวางแผนให้ถี่ถ้วนตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อจัดตำแหน่งห้องพระให้เหมาะสมที่สุด

2. ห้องพระไม่ควรอยู่ติด หรือใช้กำแพงเดียวกับห้องน้ำ

ตามกฎเบญจธาตุ หรือธาตุทั้ง 5 ห้องพระถือเป็นธาตุไฟ ส่วนห้องน้ำถือเป็นธาตุน้ำ ในความเป็นจริง น้ำกับไฟเป็นสิ่งที่ขัดกันและไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้อยู่แล้ว ตามหลักฮวงจุ้ยก็เช่นกัน การนำห้องพระที่เป็นธาตุไฟ และห้องน้ำที่เป็นธาตุตรงข้ามมาอยู่ใกล้กัน จะทำให้ความศักดิ์สิทธิ์นั้นเสื่อมลง เนื่องจากน้ำจะบั่นทอนไฟไปเรื่อยๆ แต่หากเจ้าของบ้านได้ออกแบบสร้างบ้าน หรือสร้างบ้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว และไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ให้นำผ้าม่าน ตู้ไม้ หรือแผ่นไม้มากั้นกลางระหว่างห้องพระและห้องน้ำแทน เพื่อช่วยกันไม่ให้ทั้ง 2 ธาตุขั้วตรงข้ามมาเจอกัน หากไม่หาสิ่งใดมากั้น นอกจากจะทำให้ความศักดิ์สิทธิ์ถูกบั่นทอนแล้ว อีกความเชื่อหนึ่งกล่าวว่า จะทำให้เงินทองรั่วไหล เก็บเงินไม่อยู่อีกด้วย

ห้องพระที่ดี ต้องเงียบสงบและอากาศถ่ายเท
3. ห้องพระควรอยู่ในมุมที่เงียบสงบ

ห้องพระนอกจากจะเป็นที่กราบไหว้ สักการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังมีกิจกรรมอย่างการสวดมนต์ นั่งสมาธิ ที่เป็นกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิอย่างมาก ห้องพระจึงควรออกแบบให้อยู่ในมุมที่สงบเงียบ ไม่มีคนพลุกพล่าน ห่างจากสิ่งรบกวนทั้งหลาย เพื่อให้ผู้ปฏิบัติธรรมได้มีจิตใจที่สงบในการสวดมนต์ ไหว้พระ ซึ่งความสงบในจิตใจจะนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคลของผู้อยู่อาศัยได้ด้วย 

4. ห้องพระควรตั้งอยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทได้ดี

เพราะชาวพุทธกับการไหว้พระเป็นของคู่กัน ซึ่งการไหว้พระมักจะต้องจุดธูป จุดเทียน หรือบางคนอาจจุดกำยานด้วย ทำให้การออกแบบสร้างบ้าน จึงต้องวางแผนให้ห้องพระอยู่ในจุดที่อากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้กลิ่นธูปและควันมารบกวนผู้อยู่อาศัยและผู้ปฏิบัติธรรมได้ และยังสามารถช่วยลดอันตราย และอุบัติเหตุเพลิงไหม้ ซึ่งเกิดจากควันไฟจากเทียนและธูปได้อีกด้วย

5. ห้องพระควรหันหน้าไปทางตะวันออกและทิศเหนือ

การเลือกห้องพระ ควรศึกษาตั้งแต่ก่อนออกแบบสร้างบ้าน เช่น ตัวบ้านหันหน้าไปทางทิศไหน ห้องพระควรอยู่ตรงไหนของบ้าน ไปจนถึงการเลือกทิศที่องค์พระจะหันหน้าไปทางทิศนั้นๆ เพราะการวางองค์พระไม่ใช่ว่าจะให้หันไปทางทิศก็ได้ ซึ่งทิศที่เหมาะสมที่สุด คือ ทิศเหนือ และทิศตะวันออก เพราะเป็นทิศที่มอบพลังงานดี เป็นทิศมงคล ช่วยเสริมเรื่องหน้าที่การงานและการเงินให้เป็นไปในทิศทางที่ดี ทำให้การ ออกแบบสร้างบ้าน จึงสำคัญมาก แต่หากผู้อ่านเป็นคนที่เพิ่งหันมาสนใจตั้งหิ้งพระ และไม่สามารถปรับแก้ไขบ้านได้แล้ว ตามหลักฮวงจุ้ย สามารถปรับตำแหน่งหิ้งพระให้สามารถหันองค์พระไปในทิศทางดังกล่าวได้

ห้องพระตามหลักฮวงจุ้ย

หลักฮวงจุ้ยอื่นๆ ที่ควรรู้ เกี่ยวกับการจัดตำแหน่งหิ้งพระ

  • การจัดตำแหน่งห้องพระที่ช่วยเสริมพลังบวกมากที่สุด คือ ตำแหน่งหน้าบ้านและตำแหน่งหลังบ้าน เนื่องจากตำแหน่งหน้าบ้าน ถือเป็นตำแหน่งโชคลาภ ส่วนตำแหน่งหลังบ้าน ถือเป็นตำแหน่งบารมี
  • ไม่ควรตั้งองค์พระในห้องนอน โดยเฉพาะคนมีคู่แล้ว แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรใช้ฉากกั้นให้เป็นสัดส่วน
  • ไม่ควรตั้งหิ้งพระอยู่บริเวณบันได หรือใต้บันได
  • ไม่ควรจัดหิ้งพระอยู่ใต้คานบ้าน
  • ไม่ควรตั้งห้องพระ อยู่เหนือหรือใต้ห้องน้ำ
  • ห้ามแขวนหิ้งพระติดกับผนังห้องน้ำ

วิธีจัดตำแหน่งห้องพระทั้งหมดที่กล่าวมานี้ จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีข้อควรระวังนั้นมีอยู่มาก ซึ่งการจัดตำแหน่งห้องพระ จำเป็นต้องให้ความสำคัญตั้งแต่กระบวนการก่อนสร้างบ้าน หรือพูดง่ายๆ คือ ตั้งแต่การ ออกแบบสร้างบ้าน ต้องวางแผนให้ดี ดูทำเลและทิศทางของบ้านให้ถี่ถ้วน เพื่อวางแผนจัดตำแหน่งห้องพระให้เหมาะสม เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้อยู่อาศัยมากที่สุดนั่นเอง หรือหากคุณไม่สันทัดเกี่ยวกับการวางแผน ออกแบบสร้างบ้าน หรือกำหนดตำแหน่งห้องพระตามหลักฮวงจุ้ยที่ถูกต้อง สามารถใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้าน Grit Build ได้นะครับ เพราะเราให้ความสำคัญเกี่ยวกับการสร้างบ้านที่ดี รวมถึงหลักฮวงจุ้ยที่ช่วยเพิ่มสิริมงคลและพลังงานดีๆ ให้แก่ผู้อยู่อาศัยได้ 

 

เรื่องสร้างบ้าน เลือก Grit Build ให้ดูแลบ้านของคุณได้นะครับ

Categories
ข่าวสาร

5 ข้อที่ต้องรู้ ก่อนติดตั้งระแนงไม้

“ระแนงไม้” เป็นวัสดุยอดฮิตที่เจ้าของบ้านสายมินิมอลหลายคนสนใจติดตั้ง เพราะนอกจากสามารถนำมาตกแต่งบ้าน เพิ่มความสวยงามให้บ้านน่าดึงดูดแล้ว ระแนงไม้ยังปกป้องบ้านจากทั้งแสงแดด ลม ฝน เพิ่มอายุการใช้งานของผนังภายนอกบ้าน และสามารถให้ความเป็นส่วนตัวกับคนในบ้านได้ดี  แต่การใช้ระแนงไม้นั้น ต้องคำนึงถึงการใช้งานหลายๆ อย่าง เช่น วัสดุที่นำมาใช้ ความแข็งแรงของโครงสร้าง การใช้งานที่เหมาะสม เป็นต้น หากผู้รับเหมาก่อสร้างหรือ บริษัทรับสร้างบ้าน ไม่ให้ความสำคัญเรื่องนี้ อาจเกิดปัญหาตามมาในภายหลังได้ บทความนี้ บริษัทรับสร้างบ้าน ที่คนกรุงเทพเชื่อถืออย่าง Grit Build จึงมาแนะนำ 5 ข้อที่ต้องรู้ก่อนติดตั้งระแนงไม้ มาฝากกัน เพื่อให้ได้บ้านสวยและเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

แบบบ้าน Vivian

1. ระยะห่างระหว่างระแนง ต้องพรางสายตาจากคนภายนอก

เจ้าของบ้าน หรือ บริษัทรับสร้างบ้าน ที่ต้องการออกแบบ หรือติดตั้งระแนงไม้ไว้บริเวณบ้าน ต้องคำนึงตลอดว่าระแนงไม้ ไม่ใช่เพียงตกแต่งเพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่ต้องพรางสายตาจากคนภายนอกที่มองเข้ามาได้ด้วย หรือเรียกอีกอย่างคือ ต้องปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของคนในบ้าน โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืนที่แสงจากภายนอกมืดสนิท ส่วนภายในบ้านเปิดไฟสว่าง จะยิ่งส่งผลให้คนนอกมองเห็นภายในทะลุปรุโปร่ง

 แม้ว่าระยะห่างของระแนงจะไม่มีระยะที่ตายตัว แต่การคิดคำนวณระยะห่างระหว่างระแนงไม้ ก็ต้องคิดคำนวณอย่างรอบคอบ ซึ่งหากเจ้าของบ้านไม่เชี่ยวชาญ สามารถใช้บริการของบริษัทรับสร้างบ้านได้ โดยอาจจำลองด้วยโปรแกรม 3D  หรือลองจัดวางก่อนติดตั้งจริง จะช่วยลดความผิดพลาดได้ดีขึ้น

แบบบ้าน GRACE

2. ก่อนคิดติดตั้ง ต้องคิดถึงตอนซ่อมแซมก่อนเสมอ

เจ้าของบ้านที่คิดติดตั้งระแนงไม้ ส่วนใหญ่แล้วจะมองที่ความสวยงาม และป้องกันแดดเป็นหลัก จึงมักติดตั้งระแนงไม้สูงจากชั้นล่างยาวไปจนถึงชั้นสอง เนื่องจากชั้นสอง มักโดนแดดมากกว่าชั้นล่าง และต้องการความเป็นส่วนตัวมากกว่า ซึ่งการติดตั้งระแนงไม้สูงๆ เจ้าของบ้านต้องคิดให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนการติดตั้ง เพราะการดูแลรักษาเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก จำเป็นต้องมีเครื่องมือเฉพาะ และความเชี่ยวชาญในการดูแล ทำให้ค่าซ่อมแซมแต่ละครั้งอาจก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายที่สูงได้ 

นอกจากการคำนึงถึงการติดตั้งระแนงไม้แล้ว การใช้ไม้จริงในการติดตั้งก็เป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงเช่นกัน โดยไม้จริงก็เป็นวัสดุที่หลายๆ คนชื่นชอบ เพราะดูเป็นธรรมชาติ และสร้างบรรยากาศอบอุ่นให้บ้านได้อย่างดี แต่การใช้ไม้จริงโดยส่วนใหญ่แล้วทางบริษัทรับสร้างบ้านจะไม่แนะนำให้เจ้าของบ้าน เพราะต้องแลกกับการเอาใจใส่ และดูแลรักษาอยู่เสมอ หากเจ้าของบ้านละเลยไม่ดูแลรักษานานๆ ไม้ก็จะสีซีด จางลง หรือทำให้ผุพังลงได้ ดังนั้นเจ้าของบ้านจึงต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจติดตั้ง

แบบบ้าน Madison

3. วัสดุที่ใช้ติดตั้งระแนงต้องทนทานและมีประสิทธิภาพ

หากดูจากข้อที่ 2 แล้ว จะเห็นได้ว่าวัสดุที่มีความสวยงามเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถใช้เป็นข้อตัดสินใจทั้งหมดได้ เพราะระแนงไม้เป็นส่วนที่ได้รับสภาพอากาศภายนอกเต็มๆ ตลอดทั้งปี เจ้าของบ้านควรเลือกใช้วัสดุที่ทนแดดทนฝน และไม่ทำให้เกิดปัญหาระแนงบิด หัก ผุ พัง สีซีด โดยวัสดุที่คงทน มีอายุการใช้งานยาวนานที่บริษัทรับสร้างบ้านส่วนใหญ่แนะนำให้ใช้ติดตั้งระแนงไม้ ได้แก่ อลูมิเนียม เหล็ก หากเจ้าของบ้านต้องการวัสดุที่ให้ความสวยงามได้เหมือนไม้จริงและมีความคงทน สามารถใช้ไม้สังเคราะห์ ที่ทำจากไฟเบอร์ซีเมนต์ หรือ WPC ยี่ห้อที่เชื่อถือได้และมีรับการรับประกันที่ยาวนาน

แบบบ้าน Luciano

4. โครงระแนงต้องแข็งแรง และปลอดภัย

โครงระแนงเป็นส่วนสำคัญที่สุดที่ถูกมองข้ามเยอะที่สุด เจ้าของบ้านจึงควรใส่ใจกับขั้นตอนนี้ให้มากๆ โดยเฉพาะระแนงที่ยึดติดกับอาคาร เนื่องจากโครงระแนงเป็นส่วนที่รับน้ำหนักของระแนงทั้งหมด จึงต้องมั่นใจว่าโครงระแนงของบ้านได้มาตรฐาน มีความแข็งแรงทนทาน หากมีการติดตั้งระแนงที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจส่งผลให้ระแนงไม้ร่วง โครงสร้างพัง ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อทรัพย์สินและชีวิตได้

 

การติดตั้งระแนงจึงควรมีผู้เชี่ยวชาญ สถาปนิก หรือวิศวกร เข้ามาช่วยตรวจสอบอย่างรอบคอบ เพราะการวัสดุในการติดตั้งระแนง มีการคำนวณการติดตั้งและเทคนิคที่แตกต่างกัน หรือหากเจ้าของบ้านที่กำลังมองหา บริษัทรับสร้างบ้าน สามารถเลือกใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้าน อย่าง Grit Build เรามีทีมที่เชี่ยวชาญเฉพาะการติดตั้งระแนงไม้ที่ได้มาตรฐาน สามารถเข้ามาช่วยดูแลตั้งแต่เริ่มต้นจนจบได้ โดยการติดตั้งระแนงจะใช้ช่างเฉพาะติดตั้งระแนงไม้ของบริษัทนั้นๆ เพื่อมาตรฐานและการรับประกันที่ยาวนาน

สถาปนิก : Montalba Architects, Inc

5. บ้านที่เสร็จสมบูรณ์ อาจไม่ได้สวยเป๊ะอย่างภาพ 3D

การใช้โปรแกรมออกแบบบ้าน 3D เป็นโปรแกรมที่ช่วยให้เจ้าของบ้านสามารถเห็นภาพบ้านที่ใกล้เคียงกับบ้านจริง เพื่อให้เจ้าของบ้านได้ตัดสินใจได้ง่ายก่อนเริ่มสร้างบ้าน แต่เมื่อถึงขั้นตอนการสร้างจริง บางจุดไม่สามารถลงรายละเอียดได้เป๊ะเหมือนภาพ 3D เป็นเพราะขั้นตอนการก่อสร้างต้องยึดความคงทนและความปลอดภัยก่อนเสมอ ระแนงไม้ก็เป็นอีกส่วนที่ไม่ตรงตามภาพ 3D เช่นกัน เพราะส่วนสำคัญที่สุดอย่างโครงระแนง ไม่ได้ปรากฏในภาพ 3D ที่ทุกคนเห็น ดังนั้น เมื่อเจ้าของบ้านตัดสินใจสร้างบ้านที่มีระแนงไม้แล้ว ต้องเข้าใจในขีดจำกัดในการติดตั้ง และเผื่อใจไว้ก่อนเสมอ เพราะบริษัทรับสร้างบ้านต้องคำนึงถึงความปลอดภัยก่อน

ทั้งหมด 5 ข้อที่ Grit Build รวบรวมมานั้น เป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าของบ้านไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นเรื่องของความปลอดภัย ดังนั้นหากใครที่กำลังมองหาบริษัทรับออกแบบบ้านที่ทำงานอย่างมีมาตรฐาน มีผลงานบ้านการันตี มีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลตั้งแต่ก่อนสร้าง เริ่มสร้าง และหลังสร้างเสร็จ เลือก Grit Build ให้ดูแลบ้านของคุณได้นะครับ

Categories
ข่าวสาร

‘Grit Build’ เดินหน้าเปิดสาขา ‘CDC’ มุ่งสร้างบ้านมาตรฐาน เปี่ยมคุณภาพ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

Grit Build บริษัทรับสร้างบ้าน เปิดตัวสาขาใหม่ ด้วยความยิ่งใหญ่กว่าเดิมที่ Crystal Design Center (CDC) ภายในอาคาร L4 ชั้น 2 พร้อมให้บริการลูกค้าอย่างทั่วถึงและยึดมั่นการสร้างบ้านอย่างมีมาตรฐานและเพิ่มประสิทธิภาพที่มากกว่าเดิม สามารถพบกับ Grit Build สาขาใหม่ได้ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2566 นี้ เป็นต้นไป

บริษัท กริท บิลด์ จำกัด (Grit Build co.,ltd.) บริษัทรับสร้างบ้าน สมาชิกของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ให้บริการเรื่องบ้านอย่างครบวงจร แบบ One Stop Service ตั้งแต่การให้คำปรึกษาเรื่องการสร้างบ้าน บริการแนะนำสินเชื่อที่บริษัทร่วมกับธนาคารชั้นนำ บริการออกแบบ และสร้างบ้านตามแบบบ้านที่ลูกค้าต้องการ ตลอดจนการประสานงานต่างๆ อาทิ การขออนุญาตก่อสร้าง บริการขอน้ำไฟชั่วคราว การวางแผนและประเมินราคาค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นระหว่างก่อสร้างจนลูกค้าเข้าอยู่อาศัย พร้อมดูแลเรื่องการก่อสร้าง มีทีมตรวจสอบคุณภาพงาน ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงส่งมอบ

ในปัจจุบันบริษัทมีแบบบ้านให้ลูกค้าเลือกมากกว่า 50 แบบ ตั้งแต่ราคาเริ่มต้นที่ 4 ล้านบาท ไปจนถึง 30 ล้านบาท ภายใต้ระบบการทำงานที่มีคุณภาพและได้รับมาตรฐานสากล ก่อสร้างโดยใช้ระบบหล่อในซึ่งมีความแข็งแรง ทนทาน ยืดหยุ่นในการออกแบบ รวมถึงง่ายต่อการเปลี่ยนแปลงหากมีการต่อเติมหรือปรับเปลี่ยนในอนาคต อีกทั้งวัสดุและอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในงานก่อสร้าง ทางบริษัทฯเลือกใช้แต่สินค้าจากแบรนด์ผู้ผลิตชั้นนำที่มีมาตรฐานสูงเท่านั้น เพื่อลูกค้ามั่นใจได้ว่าจะได้รับบ้านที่สวยงาม แข็งแรงตามหลักวิศวกรรม โดยบริษัทฯ มีการรับประกันโครงสร้างของบ้านเป็นระยะเวลา 10 ปี ,งานหลังคารับประกัน 5 ปี* , ระบบป้องกันปลวกรับประกัน 3 ปี และรับประกันวัสดุอุปกรณ์และงานทั่วไป 1 ปี เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในบริการ คุณภาพ และมาตรฐาน

ทุกขั้นตอนเรามีทีมผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการสร้างบ้านคอยให้คำปรึกษา ทั้งสถาปนิกที่รอบรู้ด้านการออกแบบบ้านให้ตรงใจกับผู้อยู่อาศัย วิศวกรที่สั่งสมประสบการณ์มามากมาย รวมถึงทีมก่อสร้างบ้านมืออาชีพที่จริงใจและมีความรู้จริง โดยใส่ใจถึงวัสดุก่อสร้าง เครื่องมือและอุปกรณ์ก่อสร้างที่ทันสมัยได้มาตรฐาน พร้อมคำนึงถึงความเป็นอยู่ ของผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง โดยเน้นที่ความต้องการของเจ้าของบ้านเป็นหลัก ซึ่งทั้งหมดสามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของเจ้าของบ้านได้ ไม่ตีกรอบว่าต้องเลือกจากแบบหรือวัสดุที่ทางบริษัทฯกำหนดไว้เท่านั้น โดยจะมีการออกแบบและแนะนำให้อยู่ในงบประมาณที่เจ้าของบ้านตั้งไว้ เพื่อให้บ้านแต่ละหลังที่ส่งมอบออกไป สร้างความสุขให้แก่คนในบ้านได้อย่างแท้จริง

บริษัท กริท บิลด์ จำกัด (Grit Build co.,ltd.) ได้เปิดตัวสาขาใหม่ ที่ Crystal Design Center (CDC) ภายในอาคาร L4 ชั้น 2 โดยมีจุดประสงค์เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงบริการที่ดียิ่งขึ้น และมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าทุกท่าน

Grit Build ให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ โดยลูกค้าสามารถเลือกปรับเปลี่ยนแปลนบ้านรวมถึงรูปลักษณ์ และวัสดุที่ใช้ในการสร้างบ้าน เพื่อให้ตรงกับความต้องการตนเองมากที่สุด ทั้งนี้นอกเหนือจากการบริการและมาตรฐานการก่อสร้างที่ดีแล้ว Grit Build ยังให้ความสำคัญกับวัสดุที่มีคุณภาพ คัดสรร เฉพาะจากแบรนด์ชั้นนำ เพื่อบ้านที่ดีที่สุดของลูกค้า

นาย ภากร ตั้งศิลาถาวร ผู้จัดการฝ่ายก่อสร้างและบริหารสำนักงาน บริษัท กริท บิลด์ จำกัด ได้กล่าวเกี่ยวกับการเปิดสาขาใหม่ว่า เหตุผลที่เลือก Crystal Design Center (CDC) เป็นที่ตั้งของสาขาใหม่ของ Grit Build นั้น ตั้งใจให้อยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ เพราะเราคำนึงถึงความสะดวกในการเดินทางของลูกค้าเป็นหลัก อีกทั้งสถานที่ยังมีที่จอดรถที่กว้างขวาง รวมถึงง่ายต่อการเดินทาง โดยลูกค้าที่ต้องการปรึกษาเรื่องการสร้างบ้านกับผู้เชี่ยวชาญโดยตรง แม้ว่าในปัจจุบัน การให้คำแนะนำเหล่านี้สามารถสื่อสารผ่านทางออนไลน์ได้ แต่เราพบว่าเรื่องของบ้าน เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและควรมีการไตร่ตรองให้ดี มีองค์ประกอบมากมายตั้งแต่เรื่องการออกแบบ ทิศลม ทิศแดด หน้าตาและฟังก์ชันการใช้สอย ให้เข้ากันได้กับคนหลากช่วงอายุที่อาศัยอยู่ร่วมกัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่แต่ละคนจะมีความต้องการที่ไม่เหมือนกัน การเลือกใช้วัสดุที่ใช้ในการตกแต่งและก่อสร้างบ้าน และเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งต้องเน้นความจริงจังในการพูดคุยเป็นส่วนใหญ่ การได้เห็นวัสดุจริง หรือการแชร์ประสบการณ์และแนวทางการออกแบบ ซึ่งหากเป็นการพูดคุยกันแบบตัวต่อตัวสามารถตอบสนองความต้องการเหล่านั้นของลูกค้าได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ Grit Build สาขาใหม่ จะตอบโจทย์เรื่องการบริการและการเดินทางที่ดีขึ้นแล้ว ยังส่งผลดีให้กับแผนการตลาดในอนาคตของ Grit Build ด้วย โดย นาย สุวิจักขณ์ รื่นเริง ผู้จัดการฝ่ายขายของ Grit Build เปิดเผยว่า ตลาดกลุ่ม New Gen เป็นกลุ่มลูกค้าที่น่าสนใจ ซึ่งจุดแข็งอีกจุดของสาขาใหม่ที่ CDC นี้ สามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่ม New Gen ได้ คือ CDC เปรียบเสมือนศูนย์รวมของธุรกิจเกี่ยวกับการสร้างบ้าน มีพร้อมทั้งร้านเฟอร์นิเจอร์ วัสดุ อุปกรณ์เกี่ยวกับการสร้างบ้านมากมาย ยิ่งไปกว่านั้น การบริการของ Grit Build ที่ดูแลเรื่องการสร้างบ้านแบบ One stop Service สามารถตอบสนอง Pain Point ที่ New Gen ต้องการ คือ ความ “ครบ จบ ในที่เดียว” ได้ด้วย

มากกว่าบริการและสถานที่ที่เอื้อต่อคนกลุ่ม New Gen มีอีกหลายเรื่องที่ Grit Build ตั้งใจใช้เพื่อมัดใจกลุ่มลูกค้ารายใหม่ให้อยู่หมัด เช่น แบบบ้านที่ทันสมัย หลากหลายสไตล์ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และการใช้งานของ New Gen ได้อย่างพอดี นอกจากนี้ยังมีบริการปรับแบบบ้านและวัสดุต่างๆ โดยที่การเพิ่มเติมและปรับเปลี่ยนยังอยู่ในงบประมาณที่ตั้งไว้ ไม่มีบานปลายอย่างแน่นอน

แบบบ้านใหม่มาแรง

Madison

บ้านโมเดิร์น ดีไซน์หรูหรา สะท้อนความเป็นส่วนตัว ดูมีระดับ
❖ พื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 457 ตร.ม.
❖ จำนวน 3 ชั้น
❖ ห้องนอน 4 ห้อง
❖ ห้องน้ำ 4 ห้อง
❖ พื้นที่จอดรถรองรับ 4 คัน

ดูแบบบ้าน Madison เพิ่มเติม Click

Luciano

บ้านทรงโมเดิร์นสีขาวล้วน สะท้อนความเรียบง่าย สบายตา
❖ พื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 369 ตร.ม.
❖ จำนวน 2 ชั้น
❖ ห้องนอน 3 ห้อง
❖ ห้องน้ำ 5 ห้อง

ดูแบบบ้าน Luciano เพิ่มเติม Click

Vivian

บ้านสไตล์โมเดิร์น หลังใหญ่ดูเรียบหรู สะท้อนความอบอุ่น อยู่สบาย
❖ พื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 487 ตร.ม.
❖ จำนวน 2 ชั้น
❖ ห้องนอน 7 ห้อง
❖ ห้องน้ำ 5 ห้อง
❖ พื้นที่จอดรถรองรับ 4 คัน
❖ ห้องสำหรับ Maid 1 ห้อง

ดูแบบบ้าน Vivian เพิ่มเติม Click

Olivia

บ้านทรงโมเดิร์น ดูดีมีระดับ ด้วยการใช้สีขาวตัดกับหินอ่อน
❖ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 192 ตร.ม.
❖ ห้องนอน 2 ห้องนอน
❖ ห้องน้ำ 2 ห้องน้ำ
❖ พื้นที่จอดรถ 1 คัน

ดูแบบบ้าน Idena Home เพิ่มเติม Click

Onyx

บ้านทรงโมเดิร์นสีดำขลับสลับลายไม้ เรียบหรู ดูเท่ อยู่สบายไม่มีเบื่อ
❖ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 337 ตร.ม.
❖ ห้องนอน 4 ห้องนอน
❖ ห้องน้ำ 5 ห้องน้ำ
❖ พื้นที่จอดรถ 2 คัน

ดูแบบบ้าน Alive Home เพิ่มเติม Click

Cayla

บ้านโมเดิร์นคันทรี อยู่สบาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ชีวิต
❖ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 220 ตร.ม.
❖ ห้องนอน 2 ห้องนอน
❖ ห้องน้ำ 3 ห้องน้ำ
❖ พื้นที่จอดรถ 3 คัน

ดูแบบบ้าน Alive Home เพิ่มเติม Click

Urbana II

บ้านทรงโมเดิร์น โดดเด่นด้วยเส้นตรงและธรรมชาติ สร้างบาลานซ์แห่งชีวิต
❖ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พร้อมสวนหย่อมโอบล้อมรอบบ้าน
❖ ขนาดพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 395 ตร.ม.
❖ ห้องนอน 4 ห้องนอน
❖ ห้องน้ำ 4 ห้องน้ำ
❖ พื้นที่จอดรถ 2 คัน

ดูแบบบ้าน Urbana II เพิ่มเติม Click

แผนที่ไปออฟฟิศใหม่ Grit Build

แผนที่ไป ออฟฟิศใหม่ Grit Build: Click

ขับรถตรงมาทางถนนประดิษฐ์มนูธรรม (ถนนเลียบทางด่วนเอกมัย – รามอินทรา) จนเจอป้าย CDC แล้วเลี้ยวซ้ายเข้ามาด้านใน 

เมื่อเลี้ยวเข้ามาใน CDC แล้ว จะพบวงเวียนเล็กๆ เลี้ยว ไปทาง SCG Home Experience

ขับตรงไปทางอาคาร SCG Home Experience แล้วขับต่อไปจนถึงลานจอดรถ สามารถจอดรถที่ลาดจอดรถได้เลย

เมื่อจอดรถแล้ว ให้เดินไปทางป้าย CDC Pet Park แล้วเดินต่อเข้ามา ด้านในจะเป็นอาคาร L4 ซึ่งออฟฟิศใหม่ Grit Build ตั้งอยู่บริเวณชั้น 2 ตรงทางเข้าอาคาร

ตรงเข้ามาด้านในอาคาร จะเจอบันไดเลื่อนขึ้นชั้น 2 ให้ขึ้นบันไดเลื่อนแล้วเลี้ยวซ้าย

ออฟฟิศ Grit Build จะอยู่ข้าง Royal Life เลยครับ

✦ 𝗚𝗿𝗶𝘁 𝗕𝘂𝗶𝗹𝗱 จริงจัง เรื่องสร้างบ้าน ✦
เพราะเราให้บริการครบวงจรเรื่องก่อสร้าง บ้าน อาคาร โรงงาน

ที่อยู่ติดต่อ

โครงการคริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์
ห้องเลขที่ L4-207 ชั้น 2 อาคาร L4 (4L4-207,209)
1448/19 ซอยลาดพร้าว 87 (จันทราสุข) แขวงคลองจั่น
เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240

สร้างบ้านกับเรา ติดต่อเลย

ผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้
Inbox: @gritbuild
Line: @gritbuild
Tel: 0933649782 (คุณเมย์)
Email: info@gritbuild.net

ข้อมูลเกี่ยวกับเราเพิ่มเติม ติดตามผ่านช่องทาง ดังนี้

Website: https://gritbuild.net/ 

Tik Tok: https://www.tiktok.com/@gritbuild 

Youtube: https://www.youtube.com/@gritbuild

Facebook: https://www.facebook.com/gritbuild 

Instagram: https://www.instagram.com/gritbuild/

สามารถดูแบบบ้านเพิ่มเติม ได้ที่ : https://bit.ly/3thBGRv

Categories
ข่าวสาร

เรื่องน่ารู้ก่อนเริ่มปลูกบ้าน เมื่อต้องลงเสาเอกก่อนสร้าง

การตั้งเสาเอก หนึ่งในความเชื่อที่ว่า บ้านไหนตั้งเสาเอกอย่างถูกต้องถูกวิธี  จะมีเทพเทวดาค่อยปกปักรักษา ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยในบ้านอยู่เย็นเป็นสุข ดังนั้นเราต้องทำความเข้าใจเรื่องนี้อย่างถูกต้อง เพื่อความสบายใจ และเป็นการเสริมสิริมงคลให้กับผู้อยู่อาศัย วันนี้ Grit Build บริษัทรับสร้างบ้าน ได้รวบรวมข้อมูลให้กับทุกคน รับรองว่าครบเครื่อง เรื่องเสาเอก แน่นอน!

1. เสาเอก

เสาเอก คือ เสาที่สำคัญที่สุดของบ้าน เพราะจะค่อยแบกรับน้ำหนักของตัวบ้าน หรืออาคารไว้  และเป็นเสาต้นแรกที่ยกขึ้นก่อนเสาอื่นในการปลูกอาคารบ้านเรือนตามพิธีฤกษ์ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่เจ้าของบ้านอีกด้วย

2. ฤกษ์การตั้งเสาเอก

สำหรับการตั้งเสาเอกที่ใช้กันจะนิยมปลูกสร้างบ้านในช่วงเดือน 1 (เดือนอ้าย), เดือน 2 (เดือนยี่), เดือน 4, เดือน 5, เดือน 9 และเดือน 12 ของแต่ละปี โดยใช้การนับเดือนแบบไทยตามหลักจันทรคติ โดยปรึกษากับทางพระผู้ใหญ่ พราหมณ์ โหร หรือหมอดูเพื่อความสบายใจของเจ้าของบ้านได้ เมื่อได้เดือนแล้ว ก็ต้องเลือกวันธงชัยในเดือนนั้นๆ ตามที่ปฏิทินกำหนด แต่เพื่อความชัวร์เจ้าของบ้านสามารถปรึกษากับผู้รู้ในด้านนี้ให้ช่วยตรวจสอบได้

3. ของมงคลที่ใช้

เมื่อได้ฤกษ์งามยามดี ต่อไปต้องจัดเตรียมของมงคลเพื่อใช้ในการทำพิธีซึ่งประกอบไปด้วย 

  • โต๊ะหมู่บูชาที่จัดไว้เรียบร้อย 1 ชุด 
  • เครื่องสักการะต่าง ๆ (ถ้าต้องการให้มี)
  • ชุดจตุปัจจัยไทยธรรมสำหรับถวายพระ (กรณีที่นิมนต์พระสงฆ์มาพรมน้ำมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับหลุมเสาเอก พร้อมสวดเจริญชัยมงคลคาถา)
  • สายสิญจน์ 1 ม้วนขนาดเล็ก
  • ผ้า 3 สี 
  • เครื่องสำหรับบูชาฤกษ์หรือเครื่องสังเวยเทวดา (จะใช้เครื่องชุดเต็มหรือแบบย่อส่วนอยู่ที่ความพึงพอใจและงบประมาณ) 
  • แผ่นนาก ทอง เงิน ชุดละ 1 แผ่น
  • ทองคำเปลว 3 แผ่น
  • ข้าวตอกดอกไม้ 1 ชุด
  • เหรียญเงินและทอง ชนิดละ 9 เหรียญ
  • น้ำมนต์ 1 ขัน มาพร้อมหญ้าคา 1 กำ
  • หน่ออ้อยและกล้วย ชนิดละ 1 หน่อ
  • ทรายเสก 1 ขัน
  • แป้งหอมตามเหมาะสม
4. ไม้มงคล 9 อย่าง

ไม้มงคล 9 ชนิดที่ใช้ พร้อมความหมายดีๆ ว่าจะมีชนิดไหนบ้างเราไปดูกันเลย

ชนิดที่ 1 ไม้ราชพฤกษ์ : ความเป็นใหญ่อำนาจวาสนา ความก้าวหน้ายิ่งใหญ่ 

ชนิดที่ 2 ไม้ขนุน : มีคนคอยให้ความเกื้อหนุน ทำสิ่งใดสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี 

ชนิดที่ 3 ไม้ชัยพฤกษ์ : การมีโชคชัย ชัยชนะ ทำดีมีโชคแห่งความสำเร็จ

ชนิดที่ 4 ไม้ทองหลาง :  มีเงินมีทองสมบูรณ์พูนสุข

ชนิดที่ 5 ไม้ไผ่สีสุก : ความร่มเย็น เป็นสุขแก่ผู้ที่อาศัยภายในบ้าน

ชนิดที่ 6 ไม้ทรงบาดาล : ความมั่นคง แข็งแรง แม้จะเจออุปสรรคก็สามารถผ่านไปได้ 

ชนิดที่ 7 ไม้สัก : การมีศักดิ์ มีศรี มีผู้คนยกย่องให้เกียรติ

ชนิดที่ 8 ไม้พะยูง : ช่วยพยุงค้ำจุนให้ทุกคนในบ้านมีฐานะดี

ชนิดที่ 9 ไม้กันเกรา : ป้องกันภัยอันตรายต่างๆ ที่จะเข้ามาในบ้าน เสริมความมั่นคงให้กับครอบครัว

5. ใบไม้มงคล

นอกจากไม้มงคลที่ต้องจัดเตรียมแล้ว ใบไม้มงคลก็ต้องเตรียมด้วยเช่นกัน โดยใบไม้ที่ใช้ประกอบด้วย 

  • ใบทอง ใบเงิน ใบนาก : เสริมทรัพย์ เสริมเงินทอง ให้แก่ผู้พักอาศัย
  • ใบทับทิม : ขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายให้แก่ผู้พักอาศัย
  • ใบพลู : มียศถาบรรดาศักดิ์ยิ่งขึ้นไป
  • ใบมะรุม : มีคนเข้ามานิยมชมชอบ
  • ใบมะขาม : ให้คนเกรงขามเคารพนับถือ
  • ใบยอ : ให้คนสรรเสริญ เยินยอ 
  • ใบมะยม : ให้คนนิยมชมชอบ แคล้วคลาดจากศัตรู 
  • ใบโกศล : ความอุดมสมบูรณ์ เสริมบารมี
  • ใบวาสนา : เสริมวาสนาให้สูงส่งยิ่งขึ้น
  • ใบโมก : ปกป้องรักษา มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง
  • ใบชวนชม : เสริมความร่ำรวย มั่งมีเงินทอง
6. พิธีตั้งเสาเอก

ในที่สุดก็มาถึงขั้นตอนสำคัญ นั้นก็คือพิธีตั้งเสาเอก เราได้รวบรวมวิธีต่างๆ แต่อย่างไรก็ตามเจ้าของบ้านไม่จำเป็นต้องทำตามทุกขั้นตอน ซึ่งขึ้นอยู่กับความสะดวกของเจ้าของบ้าน โดยเน้นที่จุดสำคัญของพิธีก็ได้เช่นเดียวกัน

กรณีไม่ได้มีพราหมณ์ หรือพระมาในพิธี ให้เชิญญาติผู้ใหญ่ที่นับถือมาเป็นผู้ช่วยทำพิธีให้ หากไม่มีใครสะดวก เจ้าของบ้านสามารถแทนได้ (ทางบริษัทมีคาถาและขั้นตอนในการกระกอบพิธีไว้เบื้องต้น) โดยผู้พักอาศัยทุกคนต้องมาพร้อมหน้ากัน โดยตั้งโต๊ะหมู่บูชาวางสายสิญจน์ไปจนถึงเสาเอก หลังจากนั้นจุดธูปเทียนที่โต๊ะหมู่บูชา สวดอธิษฐานขอพรให้มีแต่สิ่งดีๆ เข้ามา

กรณีมีพระสงฆ์มาร่วมพิธีให้กราบนิมนต์ท่านพรมน้ำมนต์ และทำการเจิม ปิดทองเสาเอกที่ได้ทำการผูกสิ่งต่างๆ เอาไว้ในตอนแรก เพื่อเป็นสิริมงคล อยู่เย็นเป็นสุข

7. เสริมบ้านให้มงคล ตามปีที่ปลูกบ้าน
  • สร้างบ้าน ปีชวด ให้ใช้ไม้ราชพฤกษ์ปักเสามุมแรก ก่อนยกเสาให้โปรยดอกไม้ 3 สี ได้แก่ ดอกกุหลาบ ดอกรัก ดอกพุทธ และใช้กล้วยในการทำพิธี จะทำให้อยู่เย็นเป็นสุข เจริญรุ่งเรืองในทุกด้าน 
  • สร้างบ้าน ปีฉลู ให้ยกเสาเอกโดยใช้กล้วยและผ้าขาวพันเสาเอก เอากิ่งมะตูม 3 กิ่ง ปักที่เสาเอก บวงสรวงด้วยขนมฝอยทอง และขนมลูกตาล จะทำให้มีแต่สิ่งดีๆ เข้ามาในบ้าน 
  • สร้างบ้าน ปีขาล ยกเสาเอกให้เอาน้ำต้มสุก น้ำ 3 ขัน ขันเงิน ขันทอง ขันนาก รดลงไปตรงเสา และโปรยดอกไม้ 3 สี ได้แก่ ดอกดาวเรือง ดอกรัก ดอกบานไม่รู้โรย จะทำให้อยู่เย็นเป็นสุข ร่ำรวยเงินทอง 
  • สร้างบ้าน ปีเถาะ ยกเสาเอกใช้ใบตะเคียน ใบเฉียง ใบพร้าหอม ต้นกล้วย 1 ต้นห่อปลายเสา แล้วบวงสรวงด้วย หมูย่าง และปลายำ ในการทำพิธี จะทำให้รุ่งเรือง 
  • สร้างบ้าน ปีมะโรง ใช้กำยานกับใบมะกรูดพันบริเวณยอดเสา เมื่อยกเสาแล้วให้โปรยดอกไม้มงคล ได้แก่ ดอกรัก ดาวเรือง บัว กุหลาบ บานไม่รู้โรย พุด และมะลิ จะทำให้สิ่งดีๆ เข้ามาในบ้าน 
  • สร้างบ้าน ปีมะเส็ง ใช้ใบสิงห์ผูกปลายเสา พร้อมข้าว 3 กระทง บูชาด้วยธูปเทียน บูชาด้วยดอกกุหลาบ พวงมาลัย มะลิสด ดอกรัก น้ำเย็น 6 ขัน และพูดว่า มั่ง มี ศรี สุข แล้วจึงยกเสาเอก จะทำให้รุ่งเรือง มีเงินทองเพิ่มพูน 
  • สร้างบ้าน ปีมะเมีย นำใบขี้เหล็กเป่าตั้งแต่ปลายถึงโคนเสา 3 รอบ เอาน้ำรดปลายเสา และบวงสรวง กล้วย มะพร้าว ส้ม แล้วลงเสาเอก จะได้อยู่ภายในบ้านอย่างร่มเย็นเป็นสุข
  • สร้างบ้าน ปีมะแม ใช้ใบเงิน หมากผู้ หมากเมีย อย่างละ 3 ใบ มาพร้อมใบกล้วย ใบอ้อย ให้ใส่ทุกอย่างลงหลุม เมื่อยกเสาเอกขึ้นให้ใช้ มะพร้าว และอ้อย ในการทำพิธี แล้วสิ่งดีๆ เข้าสู่ชีวิต
  • สร้างบ้าน ปีวอก ใช้เทียน 3 แท่งแปะทองคำเปลว ผูกด้านข้างเสาเอกตามแนวนอน ใบเงิน ทอง นาก หย่อนลงหลุม และขึ้นเสาเอกได้เลย จะช่วยให้เจริญรุ่งเรือง มั่งมี ศรีสุข ตลอดไป
  • สร้างบ้าน ปีระกา ข้าวตอกใส่ในใบบัว แล้วหย่อนลงใส่ไว้ในหลุมเสาเอก และเสารอง หรือใส่ให้ครบ 4 ทิศ และบวงสรวงด้วย ข้าว แกง แอปเปิล ดอกบัวหลวงขอพร จะทำให้มั่งมีศรีสุข
  • สร้างบ้าน ปีจอ ข้าวตอกใส่ในใบบัว แล้วหย่อนลงใส่ไว้ในหลุมเสาเอก และเสารอง หรือใส่ให้ครบ 4 ทิศ และบวงสรวงด้วยดอกบัวหลวงขอพร จะมีคนอุปถัมภ์
  • สร้างบ้าน ปีกุน ยกเสาเอก นำดอกชบา และดอกบัว อย่างละ 1 ดอก ใส่หลุมเสาเอก จากนั้นพอถึงเวลา 09.09 น. ให้ทำการลงเสาเอก ช่วยสร้างความเจริญกับชีวิต

Grit Build (กริท บิลด์) เราดูแลในทุกขั้นตอนตั้งแต่ขั้นตอนแรก จนส่งมอบบ้าน พร้อมทีมให้คำปรึกษามากประสบการณ์ วิศวกรควบคุมการก่อสร้างมีความรู้ความเชี่ยวชาญ รับรองคุณจะได้บ้านที่มีคุณภาพอย่างแน่นอน 

Categories
ข่าวสาร

ก่อนถมดินสร้างบ้าน ต้องรู้อะไรบ้าง?

การถมดิน ถือเป็นขั้นตอนแรกๆ ของการสร้างบ้าน ลองคิดตามดูว่า หากขั้นตอนแรกไม่มั่นคง ก็จะส่งผลกระทบในระยะยาวต่อไป อย่างการทรุดตัวของดิน เพราะฉะนั้นการถมดิน ไม่ได้รู้แค่ว่าต้องถมสูงเท่าไร แต่ยังมีส่วนอื่นที่เราต้องรู้อีกมากมาย วันนี้ Grit Build บริษัทรับสร้างบ้าน ได้รวบรวมข้อมูลมาให้ทุกคนได้อ่านกัน!

ปัจจัยที่ต้องถมดิน
  1. ลักษณะของพื้นที่ที่ถม ต้องสำรวจพื้นที่ และต้องคำนวณว่าต้องถมสูงขนาดไหน โดยสอบถามผู้พักอาศัยบริเวณนั้นว่า มีน้ำท่วมขังหรือไม่ น้ำระบายช้าหรือเร็ว ซึ่งปัจจัยนี้จะส่งผลให้ดินอ่อนตัวลง ซึ่งการถมดินจะต้องอัดแน่นกว่าเดิม หรืออีกวิธีคือการสังเกตพืชที่ขึ้นหากมีต้นกก ต้นอ้อ หรือธูปฤๅษี แสดงว่าพื้นที่บริเวณนั้นมีความชื้นแฉะสูง หากมีต้นกระถิน หรือมะขามเทศ แสดงว่าดินบริเวณนั้นมีความแห้ง
  2. ระดับความสูงของพื้นที่ใช้ถม ความสูงของการถมดินโดยทั่วไปแล้ว จะถมสูงกว่าถนน 50-80 ซ.ม. แต่สำหรับบางที่อาจต้องถมเผื่อพื้นดินยุบตัว โดยอาจถมสูงกว่า 1 เมตร ซึ่งสิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับการประเมินสภาพแวดล้อมโดยรอบ ทั้งระดับน้ำที่ท่วม พื้นถนนเมื่อเทียบกับพื้นบ้าน
  3. พื้นที่ถมควรทิ้งไว้นานแค่ไหน ทิ้งระยะเวลาไว้ประมาณ 3-12 เดือน เพื่อให้ดินที่ถมเซทตัวตามธรรมชาติ เนื่องจากยิ่งถมสูงดินยิ่งมีโอกาสยุบตัว แต่ก็สามารถย่นเวลาลงได้โดยการใช้รถบดอัดดินช่วย
  4. การถมในช่วงระหว่างงานก่อสร้างก็สามารถทำได้ โดยจะแบ่งเป็นการถมหลังจากการขุดทำฐานราก และ ถมหลังการก่อสร้าง โดยการถมแบบนี้จะได้ทำให้สามารถกะปริมาณดินที่ใช้ได้พอเหมาะ เนื่องจากจะมีดินจากการขุดฐานรากขึ้นมาบางส่วน และ ถมหน้าดินหลังการก่อสร้างเสร็จจะได้ดินที่ดีพร้อมสำหรับการปลูกต้นไม้
ลักษณะของดินที่ใช้ถม ต้องเป็นดินชนิดไหน
  • ดินดาน หรือซีแล็ค : เป็นดินที่มีลักษณะแห้ง เหมาะสำหรับใช้ถมทำพื้นถนน หรือที่ดินปลูกสร้างริมน้ำ
  • ดินทราย : ดินที่เป็นที่นิยมในการถมที่ เนื่องจากราคาถูก ต้นทุนต่ำ แต่ดินประเภทนี้จำเป็นต้องอัดแน่นทุกครั้ง เนื่องจากดินทรายกัดกร่อนได้ง่าย และไม่อุ้มน้ำ หากไม่ทำการอัดแน่น ก็จะเป็นสาเหตุของการทรุดตัว 
  • ดินลูกรัง : เป็นดินที่ค่อนข้างแข็ง ยิ่งแห้งยิ่งแข็งเหมาะสำหรับใช้ทำถนนคอนกรีต เพราะบดอัดแน่นได้ดี อีกประการหนึ่ง ดินชนิดนี้จะแห้ง และไม่เหมาะต่อการปลูกพืชพรรณต่างๆ 
  • ดินเหนียว : เป็นดินที่เนื้อค่อนข้างละเอียด สามารถอุ้มน้ำได้ดี และเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในกรุงเทพ และปริมณฑล
  • ดินประเภทหน้าดิน : จากชื่อก็แน่นอนอยู่แล้ว เป็นดินที่อยู่พื้นผิวบนสุด เป็นดินที่เหมาะต่อการปลูกต้นไม้ เนื่องจากมีแร่ธาตุที่จำเป็นต่อพืช ดังนั้นราคาจึงค่อนข้างสูง

ตอนนี้เราได้รู้แล้วว่า ปัจจัยที่ต้องถมดิน หรือจะประเภทดินที่ใช้ถม เพียงเท่านี้ก็หมดปัญหาดินยุบ  สามารถสร้างบ้าน ได้อย่างสบายใจ หรือเลือกบริษัทรับสร้างบ้านคุณภาพดี ที่เป็นเพื่อนคู่คิด อยู่เคียงข้างคุณ เป็นที่ปรึกษาคุณตั้งแต่ขั้นตอนแรก จนถึงขั้นตอนส่งมอบบ้าน เพราะฉะนั้นคิดจะสร้างบ้าน เลือก Grit Build (กริท บิลด์) เรามีทีมให้คำปรึกษามากประสบการณ์ วิศวกรควบคุมการก่อสร้างมีความรู้ความเชี่ยวชาญ รับรองคุณจะได้บ้านที่มีคุณภาพอย่างแน่นอน 

Categories
ข่าวสาร

มารู้จักวัสดุ “ปูพื้นบ้านลายไม้” มีกี่แบบ เหมาะกับการใช้งานแบบไหน?

หากเราพูดถึงหนึ่งในวัสดุเสริมเติมแต่งให้บ้านดูดี ดูสวย ในสไตล์ที่เราชอบ หนึ่งในนั้นคงต้องมี “พื้นลายไม้” ในลิสต์วัสดุอย่างแน่นอน ซึ่งปัจจุบันในท้องตลาดมีวัสดุปูพื้นลายไม้ให้เลือกมากมาย แถมแต่ละชนิดเองก็มีข้อดี-ข้อเสีย ที่แตกต่างกันออกไป ทำให้ในการเลือกพื้นลายไม้นอกจากความสวยงามแล้ว คุณสมบัติของการใช้งานก็มีส่วนสำคัญไม่น้อย เช่น ทนแดด ทนน้ำ ทนความชื้น ทนรอยขีดข่วน ได้หรือไม่

วันนี้ Grit Build จะพาคุณไปรู้จักวัสดุปูพื้นลายไม้ให้มากขึ้น ว่ามามีกี่แบบ กี่ประเภท แล้วแต่ละประเภทมีคุณสมบัติอย่างไร และจะเหมาะกับการใช้งานแบบไหน เราไปดูกันเลย

● กระเบื้องลายไม้

วัสดุที่ทนกับทุกสภาพอากาศ ไว้ใจ “กระเบื้อง” เพราะมีความแข็งแรง ติดตั้งง่าย จนกลายเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย  โดยปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์กระเบื้องออกมาหลากหลายแบบ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ดังนี้

  • กระเบื้องเซรามิก กระเบื้องทำมาจากดินเผา ถ้าไม่มีลาย ไม่มีสี จะเรียกว่ากระเบื้องดินเผา ถ้ามีการเคลือบผิวก็เรียกได้ว่ากระเบื้องเคลือบ
  • กระเบื้องพอร์ซเลน กระเบื้องดินเผาที่จาก ดินขาว หรือมีส่วนผสมของหินแกรนิต ซึ่งจะแข็งแรงกว่ากระเบื้องเซรามิกทั่วไป

ข้อดี

  • ทำความสะอาดง่าย
  • โดนน้ำได้ โดนแดดไม่เป็นไร
  • แข็งแรง อายุการใช้งานยาว
  • สามารถติดตั้งภายนอกอาคารได้
  • สัมผัสแล้วรู้สึกเย็น
  • มีหลายช่วงราคาให้เลือก

จุดด้อย

  • เนื้อสัมผัสไม่เหมือนไม้จริง แข็งกว่าเนื้อไม้จริง
  • ต้องเว้นขอบยาแนว
  • หากใช้บริเวณห้องนอน เวลาตอนกลางคืนหากเปิดเครื่องปรับอากาศ จะรู้สึกเย็นเท้าเวลาเหยียบ
● พื้นไม้ลามิเนต

พื้นไม้ที่นิยมใช้กับพื้นคอนโดมิเนียม หรือพื้นห้องนอน ลามิเนตลายไม้จะผลิตจากการนำไม้มาอัดให้มีความหนาแน่นสูง ทำให้ผิวสัมผัส ลวดลาย คล้ายไม้จริง

ข้อดี

  • ราคาถูก
  • น้ำหนักเบา ทำให้ติดตั้งได้ง่าย รวดเร็วทันใจ
  • มีความทนต่อรอยขีดข่วน แรงกด
  • ไม่เก็บฝุ่น และเชื้อโรค
  • มีลวดลายให้เลือกหลากหลาย

จุดด้อย

  • ไม่สามารถทนความชื้นได้ หากโดนน้ำตามรอยต่ออาจบวม
  • ต้องติดตั้งบนพื้นเรียบเสมอกันเท่านั้น
  • ไม่สามารถทำการขัด เพื่อทำสีใหม่ได้
  • ไม่สามารถติดตั้งภายนอกอาคารได้
  • หากมีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ เช่น ร้อนจัด หนาวจัด อาจเกิดการยืดขยายของแผ่นได้
  • หากติดตั้งบนพื้นที่ไม่เรียบ อาจมีการยุบตัว หรือมีเสียงเวลาเดิน
● แผ่นยางไวนิลลายไม้

เป็นหนึ่งในวัสดุยอดฮิต ติดท็อปชาร์จวัสดุปูพื้น แผ่นยางไวนิลลายไม้ทำมาจากวัสดุ ไม่ว่าจะเป็นยางพารา,  โพลียูรีเทน (PU) , พอลิไวนิลคลอไรด์ (PVC) เนื่องจากมีความเหนียว ยืดหยุ่นได้ดี ทำความสะอาดง่าย แต่ไม่มีส่วนผสมของไม้

ข้อดี

  • ราคาถูก
  • ติดตั้งง่าย มีทั้งแบบทากาว และติดตั้ง ระบบ Click Lock ได้
  • ทำความสะอาดง่าย
  • มีลวดลายให้เลือกหลากหลาย

จุดด้อย

  • ทนต่อการขูดขีดได้ไม่เยอะเท่ากับ SPC หรือกระเบื้อง
  • เมื่อติดตั้งต้องเป็นพื้นที่เสมอกันเท่านั้น
  • วัสดุชนิดนี้เหมาะกับปูพื้นภายใน
  • อายุการใช้งานสั้น 10-15 ปี
● แผ่นพื้น SPC ลายไม้

กระเบื้อง SPC คุณสมบัติคล้ายกระเบื้องยางไวนิล แต่ผิวสัมผัสจะแข็งกว่า ไม่โค้งงอ แข็งแรงกว่า เนื่องจากผลิตมาจากแคลเซียมคาร์บอเนต (หินปูน) ผสมพลาสติก PVC

ข้อดี

  • ทนทานต่อความชื้น น้ำได้ดี
  • ติดตั้งง่าย ไม่ต้องใช้กาวติด เนื่องจากติดตั้งด้วยระบบ ระบบ Click Lock ได้
  • ทนความร้อน และไฟได้
  • มีความแข็งแรง ทนทาน รับแรงกระแทกได้ดี
  • ผิวสัมผัสไม่ลื่น
  • ไม่ยืดหดตามสภาพแวดล้อม

จุดด้อย

  • เมื่อติดตั้งต้องเป็นพื้นที่เสมอกันเท่านั้น
  • วัสดุชนิดนี้เหมาะกับปูพื้นภายใน
  • อายุการใช้งาน 15 – 20 ปี
● พื้น Engineered Wood

สามารถใช้แทนไม้จริงได้ โดยเฉพาะในโครงการระดับ High – Luxury Class ความพิเศษของพื้นไม้ชนิดนี้คือมีลักษณะโครงสร้างซ้อนกันหลายๆ ชั้น ซึ่งความถูกหรือแพงอยู่ที่ชนิดไม้ที่มาปิดผิวชั้นบน ซึ่งประกอบด้วย

ชั้นบนสุด : เคลือบผิวหน้าไม้ด้วย UV Acrylic Lacquer เพื่อให้ลายไม้ชัดขึ้น สวยขึ้น และช่วยป้องกันการขีดข่วนได้ระดับหนึ่ง

ชั้นถัดมา : เป็นไม้จริง โดยไม้ที่นิยมกัน เช่น ไม้โอ๊ก, ไม้แดง, ไม้มะค่า, ไม้สัก และ ไม้เมเปิ้ล มาใช้เป็นต้น

ชั้นกลาง : แผ่นไม้เนื้อแข็งสลับกับน้ำกาวเรียงกันไปมา

ชั้นล่างสุด : เป็นชั้นสุดท้าย มีไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ความชื้น

ข้อดี

  • พื้นผิวสัมผัสเหมือนไม้จริง
  • ติดตั้งง่าย รวดเร็ว
  • ราคาถูกกว่าพื้นไม้จริง
  • แผ่นไม้ทนต่อการบิดงอได้สูง

จุดด้อย

  • ราคาสูงกว่าพื้นไม้เทียมชนิดอื่นๆ ในท้องตลาด
  • ใช้ปูพื้นเฉพาะภายในเท่านั้น
  • ไม่ทนน้ำ และความชื้น
  • หากเกิดรอยขีดข่วน จะไม่สามารถทำการขัดหน้าเพื่อทำสีใหม่ได้
● พื้น Hybrid Engineered Wood

พื้นไม้ชนิดนี้ ไม่ได้เป็นผิวไม้จริง 100% แต่จะเป็น การผสมของผงไม้ และพลาสติกเข้าไปด้วย ซึ่งทำมาเพื่อกลบจุดด้อย Engineered Wood ในด้านต่างๆ รวมถึงราคาที่ถูกลง

ชั้นบนสุด : เคลือบผิวหน้าไม้ด้วย Hydro – Seal เพื่อป้องกันการบวมน้ำ และเคลือบด้วยสาร Scratch Guard เพื่อป้องกันการขีดข่วน

ชั้นถัดมา : เป็นวัสดุที่เกิดจากการผสมของผงไม้ และพลาสติก ขึ้นรูปเป็นลายไม้

ชั้นกลาง : วัสดุที่ใช้เป็นแผ่นไม้

ชั้นล่างสุด : เป็นชั้นสุดท้าย มีไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ความชื้น

ข้อดี

  • ติดตั้งง่าย
  • กันน้ำได้ดี
  • สามารถป้องกันขีดข่วนได้ดี
  • ลดแรงกระแทกได้

จุดด้อย

  • ใช้ปูพื้นเฉพาะภายในเท่านั้น
  • ทนความชื้นและแสงแดดได้ไม่ดีนัก
  • ราคายังสูงกว่าพื้นไม้ชนิด
● พื้นไม้จริง

วัสดุปูพื้นที่ใกล้ชิด และอยู่คู่คนไทยมานาน เพราะให้ความรู้สึกธรรมชาติกว่า พื้นผิวสัมผัสให้รู้สึกอบอุ่น และมีความแข็งแรง แต่ปัจจุบันราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากหายากขึ้น สำหรับไม้ที่นิยมนำมาปูพื้น คือไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้แดง ไม้มะค่า ไม้ประดู่ และไม้เนื้ออ่อนที่ปลวกไม่ชอบ เช่น ไม้สัก เป็นต้น

ข้อดี

  • ผิวสัมผัสดี ให้ความรู้สึกอบอุ่น
  • ลวดลายมีเอกลักษณ์ สวยงาม ไม่จำเจ
  • มีความแข็งแรง ทนทาน อายุการใช้งานนาน
  • สามารถขัดผิวได้หลายครั้ง แบบไร้กังวล

จุดด้อย

  • ราคาค่อนข้างสูง
  • ไม่ทนแต่ความชื้น น้ำ ปลวก และไฟ
  • สามารถยืด หด ตามสภาพอากาศได้

 เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับข้อมูลที่เรานำมาเสนอในบทความนี้ครับ ต่อไปเวลาเลือกวัสดุปูพื้นบ้าน เราก็จะตัดสินใจได้ง่ายขึ้น แถมยังเลือกได้ตรงกับการใช้งานอีกด้วย 

หากคุณกำลังมองหาบริษัทสร้างบ้านที่มีคุณภาพ มากประสบการณ์ Grit Build (กริท บิลด์) บริษัทรับสร้างบ้านกรุงเทพ และปริมณฑล ยินดีให้บริการ ด้วยทีมให้คำปรึกษามากประสบการณ์ วิศวกรควบคุมการก่อสร้างมีความรู้ความเชี่ยวชาญ คอยดูแลการสร้างบ้านของคุณให้มีคุณภาพอย่างแน่นอน

Categories
ข่าวสาร

หน้าฝน บ้านรั่วซึม ปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม

ใครมีบ้าน ช่วงนี้ระวังหน่อย เห็นฝนตกอยู่บ่อยๆ ระวังน้ำรั่วซึมเข้าบ้าน !! ปัญหาที่หลายบ้านพบเจอ ปัญหานี้ไม่ได้ทิ้งแค่ความเปียก สกปรก ไว้เท่านั้น! แต่ยังอาจส่งผลให้ฝ้าชื้น ผุพัง ในกรณีที่รั่วมากอาจทำให้เกิดฝ้าถล่มก็เป็นได้หรือทำให้บ้านสะสมความชื้นจนเป็นต้นตอหลักให้บ้านเกิดเชื้อรา และตะไคร่อีกด้วย ยิ่งในระยะยาวก็ทำให้เกิดสีพอง หลุดลอก หรืออาจส่งผลให้ เหล็กเสริมในคอนกรีตเป็นสนิม ส่งผลเสียกับโครงสร้างของตัวบ้านได้

การรั่วซึมเข้าบ้านมีหลายสาเหตุ ทั้งกระเบื้องมุงหลังคามีการแตกร้าว รอยต่อของหลังคาที่เกิดจากการติดตั้งที่ไม่มีมาตรฐาน หรือตามรอยต่อระหว่างผนัง และเสา คาน พื้น เป็นต้น

แต่จุดที่มักเจอรอยรั่วซึมอยู่บ่อยๆ นั่นก็คือ บริเวณผนัง วงกบประตู-หน้าต่าง เนื่องจากรอยร้าวบนผนัง รอยร้าวบริเวณวงกบ หรือรอยร้าวที่เกิดจากการเจาะผนังเพื่อติดตั้งกันสาด ระแนง บัวปูนปั้น ซึ่งส่งผลให้บริเวณดังกล่าวเกิดการรั่วซึมได้

การแก้ปัญหาน้ำรั่วซึม

กรณี รั่วซึมบริเวณหลังคา 
วิธีแก้ไข ใช้กาวพลังตะปูหรือเคมีภัณฑ์ที่ใช้สำหรับซ่อมแซมรอยรั่วซึมของหลังคาได้ หากหลังคาแตกร้าวมาก ต้องรื้อและเปลี่ยนใหม่

กรณี รั่วซึมบริเวณรอยต่อของวงกบประตู-หน้าต่าง
วิธีแก้ไข อุดซ่อมด้วยซิลิโคน หรือซีลแลนท์บริเวณที่มีการรั่วซึม

กรณี รั่วซึมบริเวณผนัง  เนื่องจากมีรอยร้าวแบบแตกลายงาของผิวปูนฉาบ
วิธีแก้ไข สกิมผิวผนังและทาสีผนังด้วยสีอะคริลิกกันซึม

กรณี รั่วซึมบริเวณผนัง เนื่องจากผนังล่อน
วิธีแก้ไข สกัดปูนฉาบเดิมออกไปก่อน แล้วจึงทำการฉาบใหม่ จากนั้นให้ทากันซึมทับอีกชั้น

กรณี รั่วซึมบริเวณผนัง เนื่องจากความชื้นของผนังอีกฝั่ง
วิธีแก้ไข ให้ทากันซึมและทาสีทับหรือเลือกใช้สีที่มีคุณสมบัติกันความชื้น

กรณี ผนังมีรอยแตกร้าวขนาดใหญ่ ที่อาจเกิดจากที่โครงสร้างทรุดตัว เช่น รอยที่วิ่งตรงๆ ในแนวดิ่ง หรือรอยที่วิ่งเฉียงจากมุมผนัง
วิธีแก้ไข สามารถอุดรอยร้าวไว้ชั่วคราว จากนั้นควรปรึกษาวิศวกรให้เข้ามาตรวจสอบโครงสร้างที่ทรุดตัว เพื่อหาทางซ่อมแซมแก้ไขที่เหมาะสมต่อไป  

หากคุณคิดจะสร้างบ้าน ควรเลือกบริษัทสร้างบ้านที่มีความน่าเชื่อถือ มากประสบการณ์ ก็จะหมดปัญหาเรื่องบ้านรั่วซึม รวมถึงปัญหาต่างๆ ของบ้านได้อย่างแน่นอน

เรามีทีมให้คำปรึกษามากประสบการณ์ วิศวกรควบคุมการก่อสร้างมีความรู้ความเชี่ยวชาญ เพราะฉะนั้นคิดจะสร้างบ้าน เลือก Grit Build (กริท บิลด์) รับรองคุณจะได้บ้านที่มีคุณภาพอย่างแน่นอน     

Categories
ข่าวสาร

พื้นไม้จริง VS พื้นไม้เทียม เลือกที่ใช่ให้เหมาะกับการใช้งาน

เมื่อเราสร้างบ้านนอกจากโครงสร้างบ้านที่เราต้องใส่ใจแล้ว งานตกแต่งภายในก็ยังเป็นอีกส่วนให้บ้านของเราน่าอยู่ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นงานผนัง งานพื้น ก็สามารถสร้างบรรยากาศให้กับการอยู่อาศัยได้ไม่น้อย หนึ่งในนั้นคืองานพื้นไม้ ซึ่งให้ความรู้สึกอบอุ่น น่าอยู่ และเป็นธรรมชาติได้อย่างดี ที่สำคัญยังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน 

โดยทั่วไปแล้วไม้ที่ใช้ปูพื้นมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท คือพื้นไม้เทียม กับพื้นไม้จริง แล้วไม้ประเภทไหนเหมาะกับบ้านเราวันนี้ Grit Build รับสร้างบ้าน จะพาทุกคนไปหาคำตอบว่าข้อดี และข้อเสียของไม้แต่ละประเภทมีอะไรกันบ้าง พร้อมแล้วไปอ่านกันเลย

ประเภทไม้พื้น ที่ได้รับความนิยม

  • ไม้บีช : เป็นไม้เนื้อแข็งจากทวีปยุโรป ลักษณะของไม้มีลักษณะเนื้อขาวอมเหลือง โดยส่วนใหญ่จะนำไปผลิตเฟอร์นิเจอร์ และไม้พื้น เพราะมีลวดลายธรรมชาติที่สวยงาม ซึ่งทำให้ไม้ชนิดนี้มีราคาสูง
  • ไม้ตะเคียน : หนึ่งในไม้ยอดฮิต เพราะมีความแข็งแรงทนทาน ลักษณะของเนื้อไม้จะเป็นสีเหลืองทอง แต่เมื่อถูกแสงแดดส่องไปนานๆ เนื้อไม้จะกลายเป็นสีน้ำตาลเข้ม ซึ่งนิยมมาทำประตูวงกบ และพื้นไม้
  • ไม้สัก เป็นไม้ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความแข็งแรง ทนทาน และที่สำคัญคือ ปลอดภัยจากปลวก (แต่ต้องเป็นไม้สักแท้และมีอายุนานเกิน 10 ปีนะครับ) เพราะไม้สักผลิตน้ำมันโดยธรรมชาติออกมา ซึ่งเป็นกลิ่นปลวกและแมลงต่างๆ ไม่ชอบ ลวดลายของไม้สักที่เหมาะกับการนำไปทำเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงสีน้ำตาลที่เข้ม และสามารถตัดแต่งลวดลาย หรือแกะสลักได้ดีอีกด้วย
  • ไม้ตะแบก : ลักษณะไม้เป็นสีโทนอ่อน เนื้อไม้มีความละเอียดใสเป็นเงา ลวดลายคมชัด แต่ข้อเสียหากเนื้อไม้ถูกความร้อน หรือความชื้นมากเกินไป จะทำให้ตัวไม้บิด หรือโก่งตัวได้ง่ายกว่าไม้ชนิดอื่น ดังนั้นจึงนิยมนำมาตกแต่งภายใน 
  • ไม้แดง : หนึ่งในไม้ที่มีลวดลายสวยงาม และยังมีความแข็งแรง ทนทาน รับน้ำหนักได้ดี ซึ่งหากนำมาปรับแก้ไขจะทำค่อนข้างยาก ซึ่งนำไปใช้กับงานโครงสร้างได้ดี นอกจากนี้ยังนิยมนำมาใช้กับงานปูพื้น เนื่องจากมีความแข็งแรง ทนทาน แถมยังป้องกันการกัดกินของปลวกได้เป็นอย่างดี

ปัจจุบันวัสดุประเภทไม้จริงตามธรรมชาติหายากขึ้น แถมยังมีราคาสูง และไม้บางชนิดก็ไม่สามารถใช้ได้อีกแล้ว เพราะเป็นไม้อนุรักษ์ ดังนั้นจึงมี ไม้เทียม เข้ามาทดแทน โดยสามารถใช้ตกแต่งบ้านได้เป็นอย่างดี ไม่แพ้ไม้จริง 

ข้อดี-ข้อเสีย ไม้จริง VS ไม้เทียม

● พื้นไม้จริง

ข้อดี

แน่นอนเลยไม้จริงความสวยงามของลายไม้จะมีความธรรมชาติมากกว่า ในแต่ละแผ่นลวดลายมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่ซ้ำกัน สร้างลูกเล่นให้กับบ้านได้ไม่น้อย และยังสามารถตัดแต่งได้ ขัดผิวได้ และสามารถทาสีย้อมใหม่ เมื่อเวลาผ่านไป สีเนื้อไม้ซีดจางลงหรือเข้มขึ้นได้

ข้อเสีย

ปัญหาหลักของไม้พื้นจริงเลยคือเรื่องการดูแล รักษา จะค่อนข้างยุ่งยากกว่า ต้องมีการใช้วัสดุพิเศษอย่างน้ำยาบำรุงเนื้อไม้ เพื่อให้สภาพคงทน ทำให้มีค่าใช้จ่ายจุกจิกในระยะยาว นอกจากนั้นปัญหาเรื่องของแมลง ปลวกกินไม้ซึ่งต้องใส่ใจดูแลเป็นพิเศษ

● พื้นไม้เทียม

ข้อดี

แน่นอนจะได้ไม้ที่มาตรฐานเดียวกัน ขนาดและความหนาของพื้นไม้ที่เท่ากันทุกแผ่น ทำให้การติดตั้งง่าย แผ่นไม้บางประเภทถูกออกแบบมาให้เหมือนตัวต่อซึ่งสามารถคำนวณการใช้ และติดตั้งไม่ยุ่งยาก และคุณสมบัติสำคัญสามารถป้องกันปลวก และแมลงได้ แถมยังทนความชื้นได้ดีกว่าพื้นไม้จริง  หาได้ง่ายทั่วไปตามท้องตลาด ราคาก็ยังต่ำกว่าไม้จริง

ข้อเสีย

ไม้เทียมก็คือไม้เทียม เรื่องของลวดลายที่ทำคล้ายธรรมชาติ แต่ก็ไม่เหมือน 100% นอกจากนี้ผิวหน้าของไม้พื้นเทียมเกิดการชำรุด ความสวยอาจจะไม่เท่าพื้นไม้จริง

Categories
ข่าวสาร

ตรวจบ้านก่อนส่งมอบ เรื่องเล็กไม่ควรมองข้าม?

เมื่อบ้านสร้างเสร็จแล้วก่อนส่งมอบ สิ่งแรกที่ควรทำคือ การตรวจบ้านเพราะเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด! เพราะบ้านที่เราใช้พักผ่อนอยู่อาศัยหากเกิดปัญหาต่างๆ ตามมาคงเป็นปัญหาให้เรากังวลใจได้ไม่น้อย

สำหรับมือใหม่ไม่ต้องกังวลใจไป ว่าจะเริ่มจากตรงไหน หรือมีจุดไหนบ้างที่ต้องตรวจสอบ วันนี้ Grit Build บริษัทรับสร้างบ้าน ได้รวบรวมข้อมูล 9 จุดสำคัญของการตรวจบ้านก่อนส่งมอบ มาให้เพื่อนๆ ได้เตรียมตัวกัน จะมีจุดไหนบ้างไปดูกันเลยครับ

● งานผนังบ้าน

งานผนังเปรียบเสมือนงานโชว์ ดังนั้นงานต้องเรียบสม่ำเสมอ ไม่มีส่วนที่นูน หรือยุบเป็นหลุม และตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ดิ่งได้ฉากหรือไม่ มีรอยแตกร้าวหรือไม่ ทาสีสม่ำเสมอกันหรือเปล่า หากพบว่าจุดไหนที่บกพร่องต้องรีบแก้ไขทันที

● งานพื้น

เมื่อเข้าสู่ตัวบ้านก้าวแรกที่สัมผัสคือพื้นบ้าน และเป็นส่วนที่เราสัมผัสมากที่สุดอีกด้วย ดังนั้นการตรวจสอบอาจดูด้วยตาเปล่าหรือลองเดิน โดยดูที่รอยต่อเรียบสนิท แน่นไม่แอ่นหรือป่องขึ้นมา หากพื้นชั้นล่างเป็นกระเบื้องให้ตรวจสอบว่าวัสดุมีบิ่นหรือแตกร้าวหรือไม่

● งานบันได

งานบันไดต้องตรวจสอบเวลาเดินขึ้นเดินลงต้องไม่ส่งเสียงดัง วัสดุเคลือบผิวไม้ต้องเรียบร้อย ติดตั้งราวกันตกอย่างเเข็งแรง

● งานประตู-หน้าต่าง

ในการตรวจสอบต้องดูว่าเปิด-ปิดสะดวกไม่มีช่องว่างระหว่างบานกรอบกับวงกบ ล็อกได้ และที่สำคัญการเปิด-ปิดต้องไม่มีเสียงดัง

● งานฝ้าเพดาน

เป็นงานที่ไกลจากการสัมผัสที่สุดเพราะอยู่จุดที่สูง แต่ก็ไม่ควรมองข้าม การตรวจเช็กต้องดูว่าฝ้าเรียบเสมอกัน ไม่ตกท้องช้างหรือเว้าขึ้นบน ควรมีช่องเซอร์วิสสำหรับเปิดขึ้นไปตรวจสอบใต้หลังคา สีต้องเรียบเนียนสม่ำเสมอ ไม่มีคราบสกปรก

● งานไฟฟ้า

การตรวจสอบงานไฟฟ้าต้องมีความรู้เฉพาะทางพอสมควร ในส่วนปลั๊กไฟใช้งานได้ทุกจุดหรือไม่ ทดสอบปลั้กไฟหากมีการลัดวงจรระบบเมนเบรคเกอร์มีการตัดวงจรหรือไม่ ควรตรวจเช็กการเปิดไฟทุกดวงทั้งภายนอก และภายใน ว่ายังใช้งานได้อยู่หรือเปล่า เช็กการติดตั้งตู้ไฟฟ้า และเบรกเกอร์ติดตั้งได้ตรงตามแบบหรือไม่ ในส่วนที่ควรมีเบรกเกอร์กันไฟดูด เช่น เครื่องทำน้ำอุ่น เป็นต้น มีการติดตั้งหรือไม่ รวมถึงการเดินสายไฟต้องเรียบร้อย ไม่มีบริเวณใดของสายที่เป็นรอยคล้ำหรือดำ

● งานสุขาภิบาล

เป็นงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องน้ำทั้งหมดในบ้าน โดยการตรวจสอบการรั่วซึมต้องไม่มีรอยรั่วของน้ำทุกจุดของท่อและข้อต่อ เมื่อปิดระบบน้ำทั้งหมดแล้วมิเตอร์ต้องไม่เดิน หากมีการติดตั้งปั้มน้ำถ้าไม่ได้มีการเปิดน้ำในบ้านปั้มต้องไม่ทำงาน การติดตั้งระบบสุขาภิบาล และอุปกรณ์ต่างๆ ให้ตรงตามมาตรฐาน ทดสอบการระบายน้ำจากชักโครก และท่อน้ำทิ้งจากอ่างล้างหน้าและบริเวณอาบน้ำ สามารถใช้งานได้ปกติหรือไม่

● ถังบำบัดน้ำเสีย

ในการตรวจสอบต้องเช็กว่ามีรอยรั่วหรือไม่ โดยดูจากระดับน้ำว่าปกติหรือลดลง หากน้ำในถังลดลง อาจมีรอยรั่วได้

● ท่อระบายน้ำทิ้ง

ในการตรวจสอบต้องดูว่าน้ำสามารถไหลสู่ระบบท่อสาธารณะได้สะดวกหรือไม่ ทดสอบโดยการใช้น้ำในบ้าน ตรวจสอบการไหลผ่านหากเกิดติดขัดต้องแก้ไขทันที

ที่กล่าวมาข้างต้นคือ 9 จุดสำคัญที่ต้องตรวจสอบก่อนส่งมอบบ้านถึงมือลูกค้าอย่างมั่นใจ ซึ่งจะเป็นขั้นตอนที่บริษัทรับสร้างบ้านส่วนใหญ่ต้องทำก่อนส่งมอบบ้านอยู่แล้ว แต่ผู้สร้างบ้านมีความเข้าใจคอนเซปต์คร่าวๆ ไว้บ้างก็คงจะดีเช่นเดียวกัน

Grit Build บริษัทรับสร้างบ้าน เราใส่ใจในทุกขั้นตอนการสร้างบ้าน แต่วางรากฐาน จนถึงขั้นตอนการส่งมอบบ้าน เพื่อให้ลูกค้ามีความมั่นใจ ได้บ้านที่ได้มาตรฐาน และมีคุณภาพ 

  1. โดยเรามีการการันตีการรับประกัน ให้คุณได้อยู่บ้านอย่างสบายใจดังนี้ รับประกันการทรุดตัวของโครงสร้างหลักของอาคาร ระยะเวลา 20 ปี
  2. รับประกันงานระบบไฟฟ้า – ประปา ระยะเวลา 2 ปี
  3. รับประกัน วัสดุ อุปกรณ์ งานประตู-หน้าต่าง งานพื้น หลอดไฟ(กรณีใช้งานปกติ)
    ระยะเวลา 1 ปี
  4. รับประกันงานมุงหลังคา กระเบื้อง ระยะเวลา 5 ปี , Metal Sheet ระยะเวลา 3 ปี
  5. รับประกันงานระบบกำจัดปลวก ระยะเวลา 3 ปี

คิดจะสร้างบ้าน นึกถึง Grit Build

Categories
ข่าวสาร

ขั้นตอนการสร้างบ้านที่ควรรู้ กับ Grit Build รับสร้างบ้าน

บ้าน เป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย แต่เป็นพื้นที่ที่สร้างความรัก และความผูกพันของคนในครอบครัว ดังนั้นใครที่กำลังคิดจะสร้างบ้านต้องใส่ใจในรายละเอียดในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การออกแบบ เพื่อให้บ้านออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด  แม้จะจ้างบริษัทรับสร้างบ้านก็ต้องใส่ใจไม่แพ้กัน สร้างบ้านกับ Grit Build มีขั้นตอนอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

1. เตรียมความพร้อมก่อนสร้างบ้าน

1. เตรียมความพร้อมก่อนสร้างบ้าน

  • ที่ดิน แน่นอนก่อนเริ่มสร้างบ้าน ต้องเตรียมที่ดินให้พร้อม ทำการรื้อถอนพื้นที่ให้เรียบร้อย/ถมดิน ก่อนบริษัทรับสร้างบ้าน จะเข้าดำเนินก่อสร้าง ที่สำคัญ รถส่งวัสดุสามารถเข้าถึงได้
  • ไฟฟ้า-น้ำประปาต้องเข้าถึง เตรียมเอกสาร และใบมอบอำนาจให้พร้อม โดยทางบริษัทจะไปดำเนินขอไฟฟ้า-ประปาชั่วคราว
  • สถานที่เก็บวัสดุก่อสร้าง และที่พักคนงานขนาดไม่ต้องใหญ่มาก อย่างน้อยประมาณ 40 ตรม. เพื่อไม่ต้องเสียเวลาขนย้ายวัสดุ

2. เลือกแบบบ้าน

2. เลือกแบบบ้าน

การเลือกแบบบ้าน ควรเลือกให้เหมาะสมกับขนาดที่ดิน และตอบโจทย์การใช้ชีวิตในครอบครัว อาทิเช่น จำนวนสมาชิกในครอบครัว เป็นต้น โดย Grit Build เองมีแบบบ้านให้เลือกกว่า 50 แบบ โดยในแต่ละแบบสามารถปรับแบบให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของแต่ละครอบครัวได้ หรือจะออกแบบบ้านใหม่ ในแบบที่คุณชอบก็ได้

หลังจากเลือกแบบบ้าน ปรับแบบให้ตรงกับความต้องการและ ปรับเปลี่ยนวัสดุเรียบร้อยแล้ว ทางบริษัท จะทำการประเมินราคา และทำสัญญา 

3. ดำเนินงานโครงสร้าง

ทางบริษัทรับสร้างบ้าน จะเข้าไปยังพื้นที่ เพื่อวางผัง เจาะเสาเข็ม เมื่องานฐานรากเสร็จ ขั้นตอนต่อไปจะดำเนินในส่วนของโครงสร้างบ้าน

  • หล่อคอนกรีต เสา คาน ชั้นล่าง 
  • ติดตั้งท่อน้ำยากำจัดปลวก จากนั้นจึงเริ่ม วางแผ่นพื้น และเทพื้นชั้นล่าง
  • ทำเสาคานพื้นชั้นบน 
  • ติดตั้ง  โครงหลังคา  รวมถึงทำ โครงสร้างบันได

4. งานด้านสถาปัตยกรรม

  • ทำคานหลังคา โครงหลังคา มุงหลังคา และบันได 
  • ทำงานก่ออิฐผนัง ,ติดตั้งวงกบประตู-หน้าต่าง(ยกเว้นวงกบอลูมิเนียม) 
  • ฉาบปูนภายใน ,เดินท่อประปาภายในบ้าน ,เดินท่อไฟฟ้า และมุงหลังคาทั้งหมด
  • ฉาบปูนภายนอก ,ติดตั้งฝ้าภายใน ,ฝ้าภายนอก และงานเดินสายไฟ
  • ทำงานติดตั้งบันได ,งานติดตั้งหน้าต่าง-กระจก ,ปูกระเบื้อง ,ปูวัสดุผิวพื้น(ยกเว้น พื้น SPC พื้นไม้สำเร็จ ไม้บันได)
  • ทำงานทาสี ,ติดตั้งบานประตู ,ติดตั้งวงโคม ,ตู้เมนไฟฟ้า ,ติดตั้งสุขภัณฑ์ ,ถังบำบัดน้ำเสีย ,ประตูรั้วหน้าบ้าน ,งานรั้ว และเก็บงานทั้งหมดก่อนส่งมอบ

5. รับมอบงาน

ขั้นตอนนี้ถือเป็นขั้นตอนสุดท้าย โดยลูกค้าต้องตรวจสอบบ้านพร้อมกับตัวแทนบริษัทรับสร้างบ้าน หากมีอะไรที่ต้องแก้ไข ทางบริษัทรับสร้างบ้าน จะดำเนินการแก้ไขทันที หากทุกอย่างเรียบร้อยเสร็จสมบูรณ์ ลูกค้าจะต้องเซ็นรับกุญแจบ้าน รวมถึงเอกสารประกันบ้าน ถือเป็นอันเสร็จเรียบร้อย และย้ายของเข้ามาอยู่ได้เลย

ต้องการดาวน์โหลด รายการวัสดุก่อสร้าง  คลิก

บริการออกแบบ ก่อสร้าง โดยมืออาชีพ

Colby
บ้านทรงสูงสไตล์โมเดิร์น สะท้อนความเรียบหรู ดูโปร่งสบาย

©2021 Grit build Company Limited. Designed by Geminine Studio co.,ltd.